อุตสาหกรรมปิโตรเคมีมีวิวัฒนาการมาจากการแปรรูปน้ำมันและก๊าซโดยการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าค่อนข้างต่ำ ซึ่งมีการใช้งานอย่างจำกัดในอุตสาหกรรมเชื้อเพลิง
ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี มีผลิตภัณฑ์หลายอย่าง เช่น พลาสติก ยางสังเคราะห์ ตัวทำละลาย ปุ๋ย ยา สารเติมแต่ง วัตถุระเบิด และกาว วัสดุเหล่านี้มีการใช้งานที่สำคัญในเกือบทุกด้านของสังคมสมัยใหม่ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีถูกนำมาใช้ในรถยนต์ บรรจุภัณฑ์ ของใช้ในครัวเรือน อุปกรณ์ทางการแพทย์ สี เสื้อผ้า และวัสดุก่อสร้าง นอกจากนี้ อุตสาหกรรมยังคงสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ผ่านเทคโนโลยีใหม่และความสามารถในการแปรรูปวัตถุดิบต่างๆ
อุตสาหกรรมปิโตรเคมีจัดหาวัตถุดิบจากการกลั่นและการแปรรูปก๊าซ และแปลงวัตถุดิบเหล่านี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าโดยใช้เทคโนโลยีกระบวนการทางเคมีต่างๆ ใช้วัตถุดิบหลายชนิด
อุตสาหกรรมปิโตรเคมีมีการแข่งขันสูง ทั้งในด้านของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่สำคัญ ใช้เงินทุนสูง และดำเนินงานในตลาดผลิตภัณฑ์ระดับโลก ในอดีตอุตสาหกรรมวิวัฒนาการมาจากนวัตกรรมทางเทคโนโลยีในประเทศเศรษฐกิจอุตสาหกรรมที่พัฒนาแล้ว บริษัทเคมีภัณฑ์เฉพาะทางซื้อวัตถุดิบเพื่อผลิตสินค้าโภคภัณฑ์และปิโตรเคมีชนิดพิเศษที่หลากหลาย บริษัทน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ๆ ก็เป็นผู้ผลิตปิโตรเคมีรายใหญ่เช่นกัน และเป็นผู้นำในการพพัฒนาเทคโนโลยีมากมาย (RJ Clews ใน Project Finance for the International Petroleum Industry, 2016)
ส่วนหนึ่งของการผลิตในอุตสาหกรรมเคมีและปิโตรเคมีที่ไม่สามารถแยกออกได้คือการใช้อุปกรณ์ทำความร้อนในการผลิต ไม่ว่าจะเป็นฮีตเตอร์ เตาเผา เตาหลอม หรือแม้แต่เตาในห้องปฏิบัติการทั่วไป ดังนั้นด้วยความต้องการอุปกรณ์ทำความร้อนในอุตสาหกรรมเคมีและปิโตรเคมี Prolific Group เริ่มได้รับการยอมรับในประเทศไทยในฐานะซัพพลายเออร์ให้กับอุตสาหกรรมเคมีและปิโตรเคมีผ่านผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ทำความร้อน
